อินไซท์

October 2010

Scene4 Magazine - Arts of Thailand - Of Salads and Kings - The Royal Project grows vegetables and salad is becoming a Thai ‘thing’ | Janine Yasovant October 2010 - www.scene4.com

จานีน ยโสวันต์

เรื่องราวของสลัดและโครงการหลวง
มีสิ่งที่น่าสนใจมากที่สลัดผักเป็นหนึ่งในอาหารตะวันตกที่เป็นที่รู้จักมาก
ที่สุดที่คนไทยให้การต้อนรับและรู้สึกดีที่ได้รับประทานเนื่องจากข้อเท็จจริง
ที่ว่ามีผักและผลไม้จากโครงการหลวงที่ได้พยายามพัฒนาการเพาะปลูก
พืชผักและผลไม้จากต่างประเทศจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ผลลัพธ์ก็คือว่าความเคยชินในการกินของคนไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่นั้น
เปลี่ยนแปลงไป

ก่อนหน้านี้สลัดถูกจัดว่าเป็นอาหารว่างก่อนอาหารหลักเช่นปลาหรือน้ำซุป
แต่ในตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านเป็นวัยรุ่นที่อยากมีรูปร่างและสุขภาพที่
ดีโดยการรับประทานผักและผลไม้มากกว่าเดิม นอกเหนือจากนี้ร้านอาหาร
ตะวันตกและร้านอาหารญี่ปุ่นยังจัดให้มีสลัดบุปเฟต์ให้กับลูกค้าอีกด้วย
แน่นอนว่าสลัดเป็นหนึ่งในอาหารที่เตรียมได้ง่ายที่สุดและสามารถ
รับประทานกับอาหารจานไหนๆก็ได้ ผู้คนมักจะทำทานกันเองที่บ้านเพราะ
ผักและผลไม้หลายชนิดมีราคาไม่แพงและก็สามารถเติมเนื้อ ไข่และน้ำสลัด
หรือมายองเนสเพื่อกระตุ้นให้เด็กทานผักและผลไม้มากกว่าเดิม อย่างไรก็
ตาม จำนวนของร้านอาหารที่ขายสลัดเป็นอาหารหลักกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
(แต่ก็ยังคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับแผงลอยก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอาหารอื่น
ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วเมือง) นี่เป็นสัญญาณว่าคนไทยกำลังเริ่มที่จะใส่ใจ
สุขภาพของตัวเองโดยการเลือกอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำและเชื่อกันว่า
สลัดเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สำหรับชีวิตที่มีสุขภาพดี

IMG_4055-cr

ปีนี้พ.ศ. 2553 เป็นเป็นการฉลองครบรอบ 41 ปีของโครงการหลวง สลัด
กลายเป็นหนึ่งในอาหารยอดนิยมสำหรับคนไทยทั่วทั้งประเทศและได้รับ
การโปรโมทอย่างมากมาย แนวโน้มของการบริโภคสลัดในกรุงเทพนั้น
แข็งแกร่งกว่าจังหวัดอื่นๆ ผักและผลไม้มีราคาไม่แพงและเป็นผลิตภัณฑ์
ของโครงการหลวง บางอย่างอาจพบเจอได้ในบางฤดูกาลแต่หลายอย่างก็
สามารถซื้อหาได้ในทุกฤดูเช่นผักสลัดร็อกเกตที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเผ็ด
เล็กน้อย นอกเหนือจากนี้ยังมีถั่วแดง ข้าวบาร์เลย์ ถั่วขาว วอเตอร์เครส เห็ด
เข็มทองก็เพิ่มรสชาติให้กับสลัดเป็นอย่างมาก สลัดเลยกลายเป็นอาหารที่
จำเป็นกับการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ร้านเสริมสวยและสปาบริการอาหารสลัด
ให้กับลูกค้า

ในเดือนสิงหาคม 2553 ที่ผ่านมา โครงการหลวงและบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา
ได้จัดงาน "โครงการหลวง 41" เป็นการแสดงผลงานครบรอบ41ปี ของ
โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีที่มาจากแนว คิดที่แสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใน
งาน ได้แสดงสินค้ามากมายหลายชนิดจากร้านต่างๆของโครงการหลวง
และอีกกว่า 3,000 รายการจากโครงการหลวงในหลายแห่งที่มีอยู่ในราคา
พิเศษสุด

ไฮไลท์พิเศษประจำงานคือผลผลิตทางการเกษตรแบบแปลกเช่นมะเขือ
เทศห้าสีเป็นลูกกลมสีแดง สีเหลือง สีชมพู สีส้ม และสีช็อกโกแลต ฉ่ำน้ำ
มีรสเปรี้ยวอมหวานเหมาะสำหรับรับประทานสด ฟักทองขนาดเล็กที่มีสาร
เบต้าแคโรทีนสูงที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง พริกหวานยักษ์ที่เต็มไปด้วย
วิตามิน A B1 B2 และ C มากกว่าพริกหวานธรรมดา ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่
น่าสนใจคือของสดจากฟาร์มโครงการหลวงทั่วประเทศ เห็ดหลากชนิด
ปลาสเตอร์เจี้ยน เนื้อกระต่ายรมควัน ปลาเทร้าสด โยเกิร์ตนมจากกระบือ
รสชาเขียว ซีเรียล รสกาแฟอะราบิก้าภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ดอยคำ ซึ่งเป็น
ตราผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปของโครงการหลวง

R2-cr

R4-cr

การดำเนินการของโครงการหลวงเริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2507 ในความพยายามที่
จะลดการตัดไม้ทำลายป่าและการปลูกฝิ่นในภาคเหนือของประเทศไทย
การตัดไม้ทำลายป่านั้นเป็นการทำลายต้นน้ำและการปลูกฝิ่นนั้นผิด
กฎหมาย เป็นการกระตุ้นทำให้ชาวเขาหยุดปลูกฝิ่น โครงการนั้นได้
สนับสนุนและแนะนำให้พวกเขาปลูกพืชผักและผลไม้ต่างประเทศแทน เป็น
เวลากว่า 50 ปีแล้วที่ได้มีการปลูกพืชผักผลไม้ต่างประเทศในประเทศไทย
สลัดได้กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนมากมายชื่นชอบเป็นอย่างมาก

วัฒนธรรมการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (ไฮโดรโพนิกส์) นั้นค่อนข้างใหม่ใน
ประเทศไทยแม้ว่าวิธีนี้จะเริ่มใช้ในประเทศไทยเมื่อ 20 ปีก่อนแล้วก็ตาม
ส่วนใหญ่แล้วการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินนั้นจะใช้สำหรับการทดลองเท่านั้น
การทำไฮโดรโพนิกส์ในเชิงการค้านั้นได้รับการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ
มากกว่า 10 ปีแล้ว ในปัจจุบันนั้นชาวสวนนั้นนิยมการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน
เนื่องจากความก้าวหน้าให้ได้ผลผลิตที่สูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผักแม้จะ
อยู่ในพื้นที่ดินไม่ดีและแหล่งน้ำที่ไม่อุดมสมบูรณ์

ACK_hidrofarm-cr

ฟาร์มไฮโดรโพนิกส์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยจะใช้เทคนิคเช่น Nutrient
Film Technique (NFT) Deep Flow Technique (DFT) และ Dynamic
Root Floating Technique (DRFT) สำหรับผู้ปลูกผักในเชิงพาณิชย์ใน
ประเทศไทย การเก็บเกี่ยวได้รวดเร็วและการได้ผลตอบแทนที่สูงด้วยระบบ
เหล่านี้ทำให้การเพาะปลูกผักใบเขียวสามารถทำได้ถึง 16ครั้งใน 1 ปี
วิธีการ NFT นั้นเป็นที่นิยมในการปลูกผักสลัดซึ่งโดยส่วนใหญ่จะจำหน่าย
ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นกรุงเทพ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์
ชลบุรี ภูเก็ต และสุราษฏร์ธานี

ผู้คนทำสลัดรับประทานโดยใช้ผักและผลไม้หลายชนิดและมีอีกหลายวิธีใน
การจัดเตรียม บางคนชอบทานผักสดในขณะที่คนอื่นๆอาจชอบทานผักต้ม
อันที่จริงมันขึ้นอยู่กับชนิดของผักและวิธีการปรุงที่เหมาะสม เนื้อสัตว์หลาย
ชนิดสามารถจูงใจให้ผู้ใหญ่และเด็กทานผักมากกว่าเดิม หน้าสลัดเช่นขนม
ปังกรอบ ลูกเกด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดทานตะวันใช้ตกแต่งจานสลัด
น้ำสลัดก็จำเป็นสำหรับคนที่ไม่ชอบทานผักและก็สามารถเลือกได้หลาย
ชนิดเช่นน้าสลัดทาวซันไอร์แลนด์ มายองเนส ซีซาร์สลัด น้ำส้มสายชู
น้ำมันมะกอก น้ำสลัดงาเซซามิ และซีอิ้วญี่ปุ่น

SDC10085cr

ในจังหวัดเชียงใหม่ ดิฉันและครอบครัวมักไปทานร้านสลัดที่มีชื่อว่า
"สลัดคุณนาย" ที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังคณะวิจิตรศิลป์ของ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่จำหน่ายราคาไม่แพงจนเกินไปและคุณภาพ
อาหารอยู่ในระดับดีมาก ลูกค้าของร้านส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คุณมลและ
คุณแจ๊สเป็นสองสามีภรรยาที่เป็นเจ้าของร้านอาหารและทั้งคู่ก็จบจาก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เช่นเดียวกัน ตอนแรกทั้งสองคนเปิดร้านสเต็กใน
จังหวัดขอนแก่นแต่ต่อมาก็ตัดสินใจมาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่และเปิดร้าน

SDC10027-cr

สลัดที่ตั้งใจไว้และบอกดิฉันว่าได้เห็นความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจที่นี่
และเปิดร้านสลัดบาร์ มาร่วม หกปีแล้ว และ เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ย้ายไปยัง
สถานที่ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม มีถึง90 โต๊ะและที่จอดรถสะดวกสบายธุรกิจของ
ทั้งคู่กำลังเติบโตขึ้นและที่สำคัญก็คือความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ขายอาหารที่
คัดสรรความอร่อยเป็นที่ตรงกับรสนิยมคนรุ่นใหม่ และดีต่อสุขภาพ

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

©2010 Janine Yasovant
©2010 Publication Scene4 Magazine

Scene4 Magazine: Janine Yasovant
จานีน ยโสวันต์เป็นนักเขียน, ซีเนียร์ไรเตอร์ของ Scene4
และเป็นผู้จัดการสำนักงาน Scene4 จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย

 

Scene4 Magazine - Arts and Media

October 2010

Cover | This Issue | inFocus | inView | reView | inSight | inPrint | Blogs | Books | New Tech | Links | Masthead Submissions | Advertising | Special Issues | Payments | Subscribe | Privacy | Terms | Contact | Archives

Search This Issue Share This Page Visit Us on Facebook

RSS FeedRSS Feed

Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine - International Magazine of Arts and Media. Copyright © 2000-2010 AVIAR-DKA LTD - AVIAR MEDIA LLC. All rights reserved.

Now in our 11th year of publication with
comprehensive archives of over 6000 pages 

sciam-subs-221tf71
taos
jal-tk-bejii
Dell-Samsung-tobann-4481
ibm-728124