เมื่อปีพ.ศ. 2536 ดิฉันไปสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนดอยสะเก็ดวิทยาคม อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนแห่งนี้อยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ ดิฉันรู้สึกประหลาดใจว่า ทำไมครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียนแห่งนี้ลาออกและทิ้งนักเรียน 12 คนที่กำลังศึกษาอยู่มัธยม ปลายปีสุดท้าย สำคัญมากที่จะต้องมีครูที่สอนภาษาฝรั่งเศสเพราะว่าในตอนนี้นักเรียนต้องสอบเข้า มหาวิทยาลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนของดิฉันขอร้องให้ดิฉันเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสที่โรงเรียน ดอยสะเก็ดวิทยาคม
ดิฉันรู้สึกกังวลมากเกี่ยวกับนักเรียนที่ไม่มีครูสอนและดิฉันได้ไปพูดคุยกับผู้สอนอีกคนหนึ่งคือ เมอร์ซิเออร์ กี โคเฮ็น ศาสตราจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสที่เป็นอาจารย์พิเศษของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่และโรงเรียนปรินซ์ รอแยล คอลเลจ เกี่ยวกับการจัดตารางการสอน คุณกี ตกลงที่จะช่วยดิฉันแต่ดิฉันต้องไปรับเขาในตอนเช้า ดิฉันต้องไปที่โรงเรียนทุกวันอังคารและวัน พฤหัสบดีเพื่อสอนภาษาฝรั่งเศส ตามที่สัญญากันไว้ เช้าวันพฤหัสบดีดิฉันไปรับคุณกีไปสอนชั้น เรียนสนทนาที่ดิฉันเป็นอาจารย์พิเศษ คุณกีไม่ได้รับค่าชดเชยอันใด สิ่งดีที่สุดที่ดิฉันพบคือ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอยสะเก็ดวิทยาคมยอมให้ดิฉันพานักเรียนไปเรียนภาคสนามเยี่ยมชมเขื่อน แม่กวงอุดมธารา มีร้านอาหารหลายแห่งที่มีปลาที่เราได้เลือกทานอาหารกลางวันสำหรับครูและ นักเรียน เมอร์ซิเออร์ กี โคเฮ็นสอนสูตรอาหารเป็นภาษาฝรั่งเศสที่เป็นหลักสูตรองโปรแกรมวิชา ภาษาฝรั่งเศส รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวเพราะว่านักเรียนบางคนที่ศึกษาภาษาฝรั่งเศส ในอนาคต ได้วางแผนทำงานในธุรกิจการท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางชาวฝรั่งเศส
ปีนั้นมีความน่าสนใจแบบแปลกๆเพราะว่าในตอนกลางคืนมีฝนดาวตกติดต่อกันเป็นเวลาหลาย อาทิตย์ นักเรียนที่ศึกษาภาษาฝรั่งเศสกำลังยุ่งมากกับกิจกรรมต่างๆ เช่นการทำอาหารฝรั่งเศสและ การแสดงบนเวที ดิฉันได้จ้างครูสอนเต้นจากในเมืองให้มาช่วยและเมอร์ซิเออร์ กี โคเฮ็นช่วยเหลือ ดิฉันมากกับเรื่องการสอนเลยนำช็อกโกแล๊ตแท่ง และกล้วยหอมไปให้ทุกครั้งที่ดิฉันเจอเขาที่ หมู่บ้านมงฟอร์ต วิลล่า ในช่วงเวลา 3 เดือนซึ่งเขารู้สึกยินดีมาก เมอร์ซิเออร์ กี โคเฮนและดิฉัน ซื้อหนังสือภาษาฝรั่งเศสเป็นของขวัญสำหรับนักเรียนและพานักเรียนออกไปศึกษาภายนอกโรงเรียน
เนื่องจากว่ามีฝนดาวตกสถานที่สำคัญมากที่สุดสำหรับการดูฝนดาวตกในเชียงใหม่คือวัดพระธาตุ ดอยสะเก็ดในอำเภอดอยสะเก็ด และสนามกีฬาเฉลิมฉลองเชียงใหม่ 700 ปี ในอำเภอแม่ริม นักเรียนได้แนะนำว่าควรไปที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ดบนภูเขาซึ่งศิลปินพื้นบ้านกำลังทำงานอยู่ที่พระ อุโบสถ ข้างบนนั้นมีภาพเขียนสีฝุ่นขนาดใหญ่เกี่ยวกับความเชื่อศาสนาพุทธซึ่งศิลปินต้องใช้ความ พยายามเป็นอย่างมากในการลงสี ดิฉันถามคนแถวนั้นว่าใครเป็นผู้วาดแต่ไม่มีใครตอบ อีก 19 ปี ต่อมาดิฉันพบว่าผลงานชิ้นนี้เป็นของศิลปินที่มีชื่อเสียงที่มาจากมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาและ จบการศึกษาปริญญาตรีและโทที่มหาวิทยาลัยศิลปากร เขาคือคุณพรชัย ใจมา เป็นนักศึกษาระดับ ยอดเยี่ยมที่ได้รับรางวัลเหรียญทองห้าครั้งจากการแข่งขันวาดภาพที่จัดขึ้นโดยธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2532 – 2538 ในปีพ.ศ. 2544 คุณพรชัยได้รับรางวัลโล่เกียรติคุณผู้บำเพ็ญประโยชน์ เขียนจิตรกรรมฝาผนัง อุโบสถวัดดอยสะเก็ดจังหวัดเชียงใหม่ ผลงานชิ้นเอกของเขา เขาตั้งชื่อว่า "วิถีชีวิตล้านนา (Lanna's Way of Life) และเส้นทางสร้างสรรค์ของ พรชัย ใจมา (Creative Path of Pornchai Chaima)" เขาสร้างผลงานชิ้นเอกในหมู่บ้านของเขาในดอยสะเก็ด ต่อมาดิฉันได้ชื่อ ผลงานชิ้นเอกดังต่อไปนี้
- จิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ วัดสันต้นม่วงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ - จิตรกรรมฝาผนังหอมณเทียรธรรม วัดบุพพาราม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ - จิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ วัดดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ - งานออกแบบบานประตู หน้าต่าง วิหารวัดแม่ก๊ะเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ - งานออกแบบกำแพง วัดสันต้นม่วงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ - งานออกแบบและก่อสร้าง สำนักสงฆ์ฮอมบุญ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากญาติที่ไปงานเปิดตัวที่หอแสดงศิลปะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เขาบอกดิฉันว่าศิลปินคือพรชัย ใจมา ที่เกิดในดอยสะเก็ดและจบปริญญาตรี และโทจากมหาวิทยาลัยศิลปากร และ 13 ปีก่อนงานของเขาถูกจัดขึ้นที่ AJAC 25 ห้องแสดงภาพ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก ญาติของดิฉันบอกว่าดิฉันต้องไป ชมงานและสัมภาษณ์ศิลปินถ้าเป็นไปได้ ช่วงเวลาแสดงผลงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 – 27 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เมื่อตอนที่ดิฉันได้ยินชื่อของเขา ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะนี่เป็นศิลปินที่ดิฉันได้ ติดตามผลงานมายาวนานและดิฉันมั่นใจว่าเขาอาจจะกลับมาแสดงผลงานของเขาให้ชาวไทย ล้านนาได้ชม
|
ด้วยความบังเอิญดิฉันไปพบคุณพรชัย ใจมาที่หอศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตอนที่ดิฉันไปถ่ายรูป ในห้องแสดงภาพ งานแสดงศิลปะครั้งที่ห้าของเขาเรียกว่า "ก้าวที่ห้า สู่สายทางสล่าล้านนา"เป็นสิ่ง ที่ยอดเยี่ยมและน่าดึงดูดใจกับการเล่าเรื่องของชีวิตล้านนาไทย เขาบอกว่าเขาเก็บสะสมและขอยืม ภาพเขียนเก่าตลอดช่วงเวลา 25 ปีจากนักสะสมให้มาแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ ผู้คนบอกกับดิฉันว่า เขาจะเดินทางไปจีนและอินเดีย และจะกลับมาประมาณวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 คุณพรชัย ใจมา มีหน้าตาเหมือนภาพวาดในหนังสือเชิญชมนิทรรศการ ดูแล้วค่อนข้างตลกขบขันเพราะเครา ยาวกว่าผมตัวเองเสียอีก คุณพรชัยมีผิวสีขาวและรอยยิ้มที่เป็นมิตร
ดิฉันและคุณพรชัยเดินดูรูปทั้งหมดอีกครั้งหนึ่งและเขาบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับดิฉันเกี่ยวกับความเชื่อ ในพระพุทธศาสนาตอนที่ยังเป็นเด็กและความต้องการที่จะทำให้ภาพเขียนมีชีวิต ใช้สีฝุ่นและแผ่น ทองคำเปลวตกแต่งงานศิลปะ คุณพรชัยกล่าวว่าผมมีความคิดที่จะถ่ายทอดอดีตชาติของเจ้าชาย สิทธัตถะ
ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีคนใบ้ผู้หนึ่งเรียกว่าพระเตมีย์ที่เลือกจะไม่พูดจาและคนไม่ดีเข้ามาทำร้าย ภาพเขียนมีความโหดร้ายทารุณมาก ผมพบว่าลูกค้าหลายท่านที่มาซื้อภาพผมรู้สึกไม่สบายใจที่พระ เตมีย์ถูกทรมานด้วยวิธีการต่างๆ ดิฉันตอบว่านี่เป็นหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกมที่ มีความรุนแรง คุณพรชัยยังบอกอีกว่าจะไปประเทศจีนและอินเดียกับครอบครัวเพื่อศึกษาวิถีทาง พระพุทธศาสนาและค้นหาแนวคิดสำหรับการวาดภาพ
ดิฉันถามคุณพรชัยเกี่ยวกับภาพเขียนที่เขาชอบที่สุดและเขาตอบว่าเขาขอยืมภาพทั้งหมดด้วยความ ช่วยเหลือของมหาวิทยาลัยและเพื่อน สิ่งนี้เป็นความตั้งใจของเขาแม้ว่าภาพเขียนจะมีขนาดใหญ่ มากและกรอบรูปมีราคาแพงมาก เขาได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ผมทำสิ่งนี้เพื่อบ้านเกิดของผม จังหวัด เชียงใหม่"
|